Digimon Survive เกมสัตว์เลี้ยงดิจิทัลในตำนาน

Digimon Survive เกมสัตว์เลี้ยงดิจิทัลในตำนาน

เกิดเป็นเด็กยุค 90S ต้นยุค 2000S ก็ต้องรู้จักเกมในตำนานอย่าง Pokemon แล้วเด็ก ๆ ในยุคนั้นก็ต้องเคยเล่นเกม Digimon ของที่กำเนิดในรูปแบบของเล่นที่เป็นสัตว์เลี้ยงดิจิทัล แบบเดียวกับทามาก๊อตจิ ที่มันโด่งดัง และมีการสานต่อความสำเร็จเป็นวีดีโอเกมหลายภาคมากและล่าสุดค่าย Bandai Namco ได้เปิดตัวเกม Digimon Survive ลงบน Nintendo Switch, PlayStation 4, Xbox One และ PC ด้วย คราวนี้มีการโปรโมตล่วงหน้าเป็นปี และถือว่ามีกระแสตอบรับที่ดีมากจากความคิดถึงของแฟน ๆ Digimon ทั่วโลกแต่แล้วก็มีการเลื่อนวันวางขายไปหลายรอบจนในที่สุดก็ออกวางขายในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ความโดดเด่นอย่างแรกของเกมคือเรื่องราวที่จะเล่าผ่านตัวละครหลักอย่าง ทาคุมะ โมโมซึกะ (Takuma Momozuka) เด็กมัธยมที่ได้เดินทางไปทัศนศึกษา แต่ได้เกิดเรื่องราวทำให้หลงเข้าไปในดินแดนต่างมิติที่เต็มไปด้วยสัตว์ดิจิทัลมากมาย ที่มีตัวที่เป็นมิตรและศัตรู เนื้อเรื่องในเกมถือว่าทำออกมาได้ดีเพราะมันเป็นจุดขายหลักอีกส่วนหนึ่ง แม้การนำเสนออาจจะดูโบราณแต่ก็มีการหักมุมอยู่หลายจุดจนหากเผลอสปอยล์ไปจะหมดสนุกได้เลย

กราฟิกแบบผสมผสานที่ดูดี

สำหรับงานสร้างภาพใน Digimon Survive ที่อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน ผู้เล่นต้องชอบแนวทางคลาสสิกกันสักหน่อย เพราะมันใช้กราฟิกแบบวิชวลโนเวลแบบนิยายภาพที่มีการเคลื่อนไหวได้เล็กน้อย ที่ดูค่อนข้างเชยแต่เข้ากับแนวทางของเกมที่เน้นการเล่าเรื่องพร้อมกับการเล่นเกม ในส่วนของการเดินเรื่องสำรวจหรือแก้ปริศนา แต่ในแง่ของความคมชัดและงานออกแบบถือว่าดีงามเหมือนได้รับชมการ์ตูนคุณภาพสูงไปตลอดการเล่น

ส่วนในฉากต่อสู้กราฟิกจะเปลี่ยนไปเป็นแบบ 3 มิติเพราะเกมเพลย์เปลี่ยนมาเป็นแนววางแผนการรบ ที่จะมีฉากบนแผนที่และตัวละครที่วาดแบบง่าย ๆ และถูกย่อลงมาเป็น SD ที่ดูเชยแต่เข้าใจง่ายมากเวลาเล่น ส่วนจุดเด่นที่ต้องชมมาก ๆ คือเสียงพากย์ที่มีคุณภาพสูงและจัดเต็มแม้ว่าจะไม่ได้มีทุกจุดก็ตาม และยังมีเฉพาะเสียงพากย์ญี่ปุ่นที่เชื่อว่าแฟน ๆ ส่วนใหญ่น่าจะชอบเพราะมันเข้ากับกราฟิกในเกมมากกว่า

เกมเพลย์ 2 รูปแบบที่ลงตัว

รูปแบบการเล่นในเกม Digimon Survive จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนอย่างชัดเจน ในส่วนแรกจะเป็นการเล่นแบบวิชวลโนเวล ที่เหมือนเป็นการเล่นเกมไปพร้อมกับชมเรื่องราวผ่านนิยายภาพนิ่ง ที่ผู้เล่นจะสามารถเดินเรื่องได้ผ่านการพูดคุยกับตัวละครที่เลือกได้เอง และมีการเลือกถามตอบได้ตามใจชอบ ที่มันจะส่งผลกับเรื่องราวในเกมและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครด้วย

และผู้เล่นยังเลือกเดินทางไปสถานที่ในเกมได้ผ่านการเลือกเมนูบนมือถือ ที่เรียบง่ายเข้าใจง่ายและมีจุดบอกว่ามีใครอยู่ที่จุดไหนของฉากบ้างทำให้เราเล่นได้ลื่นไหลไม่ติดขัด แต่ติดที่มันดูเชยไปหน่อยเพราะมันเป็นเกมเพลย์ที่ใช้มาหลายสิบปีแล้ว ยังดีที่ยังเสริมด้วยระบบสำรวจด้วยสมาร์ตโฟนที่ผู้เล่นต้องใช้กล้องถ่ายรูปของมือถือเปิดมาสำรวจฉากซึ่งหากมีจุดผิดปรกติตรงไหนจะสามาถสำรวจได้ ซึ่งมีทั้งเบาะแสของเนื้อเรื่องหลัก และมีไอเทมที่ซ่อนอยู่แต่ก็ต้องระวังเพราะมีศัตรูซ่อนอยู่ด้วยเช่นกัน

ข่าวเกมส์ล่าสุด เกมมือถือ เกมออนไลน์